วันศุกร์ที่ 28 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557

บทที่ 29 เคลื่อนไหวดั่งสายลม

IMG0106





ด้วยการที่เราสามารถทำความเข้าใจ ในความเป็นเนื้อหาแห่งธรรมชาติที่มันเป็นของมันอยู่อย่างนั้นอยู่แล้ว ในความว่างเปล่าไร้ความหมายแห่งความเป็นตัวเป็นตน ของมันอยู่อย่างนั้นได้อย่างตระหนักชัดแจ้ง โดยเป็นความเข้าใจอย่างถ้วนถี่ไม่มีความลังเลสงสัยอันใดเหลืออยู่ และสามารถซึมซาบกลมกลืนกลายเป็นเนื้อหาเดียวกัน กับความเป็นธรรมชาตินั้นได้อย่างแนบสนิท ชนิดที่เรียกได้ว่ามันเป็นหนึ่งเดียวในความเป็นธรรมชาติ โดยไม่อาจแยกเราและความเป็นธรรมชาติ ให้มีความแตกต่างออกเป็นสองสิ่งได้เลย ความเป็นเนื้อหาเดียวกันในความเป็นไปตามสภาพธรรมชาตินั้น มันจึงเป็น "ธรรมชาติ" ในความเป็นเช่นนั้นเองของมันอยู่อย่างนั้น อย่างคงที่ในสภาพแห่งธรรมชาตินั้น โดยไม่มีวันที่จะแปรผันไปเป็นอย่างอื่นในความหมายอื่นได้เลย การที่เป็นเนื้อหาเดียวกันอยู่อย่างนั้นระหว่างเรากับธรรมชาตินั้น มันจึงเป็น 

ความตั้งมั่นในความเป็นธรรมชาติอยู่อย่างนั้น เป็นความตั้งมั่นที่มีความหมายถึง มันทำให้เราได้กลมกลืน เป็นเนื้อหาเดียวกันกับธรรมชาติโดยไม่มีความแตกต่าง ก็ธรรมชาติแห่งการตั้งมั่นอันคือธรรมชาติแห่งความกลมกลืน เป็นเนื้อหาเดียวกันแบบไม่มีความแตกต่าง อันทำให้เรา คือ ธรรมชาติ ธรรมชาติ คือ เรา ชนิดที่เรียกว่าแยกกันไม่ออก เป็นไปในความแนบเนียนอยู่ในความกลมกลืนอยู่อย่างนั้น ก็ด้วยขันธ์ทั้งห้าที่ถูกอุปมาไปแบบนั้นว่า นี่คือ กายเรา อันเป็นไปแห่งธาตุขันธ์ที่เราได้อาศัยอยู่อย่างนี้ และยังมีลมหายใจ ที่ขยันหายใจเข้าหายใจออกอยู่แบบนี้ อันว่านี่คือเรา คือชีวิตเรา และมันยังมีความเคลื่อนไหว สามารถกะพริบตา 

กระดุกกระดิกไปมาได้ ในท่ามกลางอิริยาบถทั้งสี่ คือ ยืน นั่ง เดิน นอน เมื่อเรายังต้องมีการไปและการมา ด้วยการเคลื่อนไหวในชีวิตประจำวันด้วยขันธ์ธาตุเหล่านี้ ก็ด้วยความเป็นธรรมชาติแห่งความว่างเปล่า ไร้ความหมายแห่งความเป็นตัวเป็นตนของมันอยู่อย่างนั้น มันจึงเป็นธรรมชาติที่มีความสงบนิ่ง สงบตามธรรมชาติของมันที่อยู่ภายในความเป็นไป อันปราศจากความ

เคลื่อนไหวแห่งภาวะใด ๆ ของมันอยู่อย่างนั้น เพราะฉะนั้นการเคลื่อนไหวไปมา มันก็เป็นเพียงการเคลื่อนไหวไปมาอยู่อย่างนั้น หามีผลหรือส่งผลกระทบอันจะทำให้เป็นเหตุเป็นปัจจัย ให้ธรรมชาติอันคือสภาพความสงบนิ่งที่แท้จริง ซึ่งปราศจากความเคลื่อนไหวแห่งภาวะใดๆ มันจะเปลี่ยนแปลงเนื้อหาของมันตามธรรมชาตินั้นไปเป็นอย่างอื่น เพราะความเป็นธรรมชาติมันก็คือ สภาพความเป็นของมัน อยู่อย่างนั้นเองอยู่แล้ว ไม่สามารถมีใครหรือสิ่งใดๆเข้ามาทำ ให้ความเป็นธรรมชาติแห่งสภาพตัวมันเอง เปลี่ยน

ไปเป็นอื่น ๆได้เลย ด้วยเหตุผลความเป็นจริงเหล่านี้ การที่เป็นเนื้อหาเดียวกันกับธรรมชาติแห่งพุทธะ และต้องเคลื่อนไหวไปมาในอิริยาบถต่าง ๆ นี้ มันจึงเป็นการเคลื่อนไหวไปในความสงบอย่างแท้จริง เป็นความสงบ ซึ่งปราศจากการเคลื่อนไหวแห่งภาวะใดๆภายในธรรมชาติ มันจึงเป็นความสงบนิ่งอย่างแท้จริง มันเป็นความสงบนิ่ง แต่เคลื่อนไหวได้ เคลื่อนไหวไปดุจดั่ง "สายลม" ที่พลิ้วไหวและแผ่ซ่าน ด้วยความสงบนิ่งแผ่วเบา ในทั่วทุกหนแห่ง หนังสือ "คำสอนเซน ภาค เซนในสายเลือด ปรมาจารย์ตั๊กม้อ" ครู

สอนเซน อาจารย์ราเชนทร์ สิมะสุนทร 28 กุมภาพันธ์ 2557


IMG_00000000000213

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น